5169 จำนวนผู้เข้าชม |
เพราะแบบนี้เอง Gibson มันถึงแพง
วีดิโอนี้ยาว 49 นาทีนิดๆครับ เขาไปถ่ายทำในโรงงานของ Gibson ให้เห็นเลยว่ากว่าจะได้กีต้าร์ดีๆ 1 ตัวนั้นมันมีกระบวนการแบบไหนอย่างไร
https://youtu.be/wm-_pUsHirw
ใครที่ขี้เกียจดูเพราะกลัวเปลือง net แอดมินจะสรุปให้ฟังสั้นๆแบบให้เห็นภาพเลยนะครับ
โรงงานของ Gibson ที่แนชวิลมีช่างทำกีต้าร์ 400 กว่าคน กว่ากีต้าร์แต่ละตัวจะเสร็จสมบูรณ์จะใช้เวลาเฉลี่ย 1 เดือนเพราะกระบวนการมันเยอะชิบหายครับ
เริ่มแรกเลยกีต้าร์ที่เราเล่นๆกันนี่มันทำมาจากไม้ ดังนั้นโรงงานเขาจะมีไม้ที่ส่วนใหญ่จะสั่งให้ตัดแล้วบรรทุกส่งมาจากต่างประเทศ ไม้มะฮ็อกานีสั่งจากอเมริกาใต้ ส่วนไม้เมเปิ้ลสั่งจากแคนาดาและมีบางส่วนเป็นไม้ภายในประเทศส่งจากวอชิงตัน ไม้เหล่านี้คนของ gibson จะไปตรวจสอบเพื่อคัดเกรดไว้ก่อน ลายไม้ต้องเป็นเส้นขนาน ไม่มีปุ่ม ไม่มีรูหนอน
พอไม้สดมาถึงโรงงานช่างไม้จะตรวจคุณภาพของไม้ อันไหนมีความชื้นเขาจะแยกเอาไปอบ อันไหนแห้งเกินไปเขาจะเอาไปทำให้มันชื้นขึ้นตามสเป็คของเขา
จากนั้นจะใช้เครื่องตัดไม้ตัดออกมาเป็นชิ้นๆให้ได้ขนาด, เลาะผิวให้เรียบร้อยกำจัดเสี้ยนออกไป, ใช้ปากกาเขียนลำดับเลข, ติดกาว, เอาเข้าเครื่องบีบให้กาวแน่น, พอกาวแห้งก็ทำความสะอาดกาว แล้วถึงเอาไม้ไปตัดเป็นทรง (Les Paul, SG, Thunderbird ฯลฯ)
ส่วนคนที่ทำคอกีต้าร์ก็จะไปคัดไม้ที่มีลายเส้นขนานมาทำคอ เพราะไม้ลายนี้มันจะทนทานที่สุด คอจะต้องแข็งแรง มัน เงา เพราะมันคือส่วนที่โดนจับมากที่สุดของกีต้าร์ ทุกอย่างใช้ของดีหมดไม่ว่าจะเป็นเหล็กขันคอ ไปจนถึงกาว
พอได้บอดี้และคอแล้วคราวนี้เขาก็ย้ายจากแผนกไม้ไปยังแผนกทำสี ที่นี่จะเป็นจุดที่ควบคุมอุณหภูมิ เขาจะฉีดไอน้ำฝอยๆไว้ด้านบนตลอดเพื่อให้ได้ความชื้นตามที่ต้องการ
ช่างจะขัดไม้ให้เนียนๆ ใส่ไบน์ดิ้งด้วยมือ อัดกาว แล้วผูกเชือกผ้าดิบทับไปทับมา (เหมือนคนอียิปต์ทำมัมมี่) เพื่อสร้างแรงบีบให้กระจายไปทั่วบอดี้ แล้วทิ้งไว้ข้ามคืนรอกาวแห้ง ระหว่างนั้นช่างที่ทำ Fretboard ก็จะเจาะคอทำ inlay ใส่ fret ใส่ inlay เรียบร้อยก็จะเอาไปทากาวติดกับคอกีต้าร์ และปั๊ม serial number ไปที่ด้านหลังของหัวกีต้าร์
ถึงตรงนี้จะเป็นช่วงที่สำคัญที่สุด นั่นคือการประกอบคอเข้ากับบอดี้ ช่างจะต้องแต่งแล้วแต่งอีกให้มันพอดี วัดองศาให้มันได้ ขัด/เหลาซอกคอให้เป๊ะที่สุดแล้วจึงอัดกาวประกอบคอกับบอดี้เข้าด้วยกัน แล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชม.
มาถึงขั้นตอนแต่ง fret ช่างจะเอากีต้าร์แต่ละตัวเขาเครื่องคำนวนเพื่อหาค่าแรงดึงของสายที่จะมีผลต่อตัวกีต้าร์ พอได้ตัวเลขแล้วจึงจะทำการเจียร fret ให้โค้งมนเพื่อให้คอรับแรงดึงได้สมดุลย์กัน
เมื่อทุกอย่างพร้อมก็จะส่งกีต้าร์ไปทำสีในห้องพิเศษที่ปราศจากฝุ่น เขาจะแขวนกีต้าร์บนราวเหล็กที่มีประจุไฟฟ้าเป็นตัวนำดึงดูดสีรองพื้นให้มาเคลือบที่ตัวกีต้าร์ในความหนา 0.01 มม. รองพื้นเสร็จก็ปิดเทปทับ Fretboard เพื่อเตรียมทำสีจริง
ตรงนี้แหละครับที่โคตรจะพีคเลย เพราะสีธรรมดาๆ เช่น ขาว, ดำ, แดง นี่ไม่เท่าไร แต่สี sunburst นี่ช่างเขาทำด้วยมือครับ เป็นงานฝีมือที่ใช้มือพ่นเลย ดังนั้น sunburst ทุกตัวจะไม่มีตัวไหน "เหมือนกัน" เลย แอดมินก็เพิ่งรู้นี่แหละ
ทำสีเสร็จก็มาเก็บงาน ตรงนี้ก็ใช้มือทำเช่นกัน ช่างเก็บงานของ Gibson จะใช้คัทเตอร์คมๆธรรมดาๆนี่แหละครับเก็บรอยสีที่เกินมา ขูดกันสนุกเลย แต่เขาไม่ได้ขูดมั่วนะครับ การลงมีดต้องเบามากยิ่งกว่าหมอศัลยกรรมอีก ขูดกันทุกซอกเล็กซอกน้อยทั้งบอดี้, ไบน์ดิ้ง, คอ และ fretboard
แล้วเขาก็เอากีต้าร์ไปลงแล็คเกอร์ที่ต้องผ่านห้องอบอุณหภูมิ 110 องศาหลายรอบเพื่อให้ชั้นสีแห้ง และกว่าแล็คเกอร์จะเข้าเนื้อก็ต้องมีอย่างน้อย 9 ชม. จากนั้นก็เอาไปขัดเงาให้มันแวววาวด้วยการขัดแบบใช้มือขัด, ส่งไปประกอบอุปกรณ์อีเลคทรอนิคต่างๆ, เสียบสายแจ็คเปิดระบบเป็นครั้งแรก และทำการ qc ตรวจเช็คทุกอย่างไม่ให้ผิดพลาด ก่อนที่จะ Set up มัน
และแล้วก็มาถึงด่านสุดท้ายครับ
หลัง set up เสร็จก็จะมีอีกทีมที่ทำหน้าที่ "ทดลองเล่น" คนกลุ่มนี้มีหน้าที่เอากีต้าร์ไปเสียบตู้แอมป์แล้วเล่นๆๆๆๆจนรู้สึกว่ามันได้มาตรฐานของ gibson และพร้อมจะส่งออกจากโรงงาน งานแม่งโคตรจะน่าอิจฉาเพราะไม่ต้องทำอะไรเลย มีหน้าที่เล่นเพียงอย่างเดียว แต่ละคนนี่แน่นอนว่าเป็นนักดนตรีทั้งนั้น
Gibson บอกว่ามีคนมาสมัครงานในตำแหน่งนี้เยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ผิดหวังกลับไป คนทำในตำแหน่งนี้เขาอยู่กันยาวเป็นสิบๆปีไม่ค่อยมีใครลาออกครับ เพราะงานมันสนุกและสบายจริงๆ การได้เล่นกีต้าร์ดีๆที่เพิ่งออกมาจากสายการผลิตนี่นักดนตรีทุกคนชอบกันทั้งนั้นแหละ
ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามาหายสงสัยเลยครับว่าทำไม gibson มันถึงแพง
แอดมินอยากปิดเพจเลิกขายกีต้าร์แล้วไปสมัครเป็นคนทดสอบกีต้าร์จริงๆ